ชีวิตประจำวัน

ณ ศูนย์การเรียนบ้านสายรุ้ง เราเริ่มต้นทุกวัน ด้วยเสียงระฆังเวลา ตีห้าครึ่ง หลังจากการนั่งสมาธิ และอธิษฐานทุกเช้า เราจะแยกย้ายกันทำหน้าที่ของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น การทำอาหาร รดน้ำต้น ทำความสะอาดอาคาร จัดการขยะ ให้ข้าวหมา ล้างห้องน้ำ เก็บกวาดห้องน้ำ เราทำงานร่วมกันเป็นทีม และช่วยเหลือกันและกันในการเรียนรู้เพื่อจะพึ่งพาตัวเอง

[smartslider3 slider="7"]

[smartslider3 slider="8"]

หลักสูตรการเรียนการสอน

ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันพฤหัสบดี เด็กๆ เรียนวิชาภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ภาษาญี่ปุ่น คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ชีววิทยา สังคมวิทยา ทักษะชีวิต ศิลปะ ดนตรี พละศึกษา และวิชาเทคโนโลยี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตร เรามีพื้นฐานการเรียนที่ออกแบบให้เด็กๆ สามารถอ่านออกเขียนได้ เรียนรู้เรื่องจริยธรรม และได้เรียนวิชาตามความสนใจและการเลือกของพวกเขา

 

ทุกๆ วันศุกร์ เรามีวันที่เรียกว่า วันเรนโบว์ ซึ่งพวกเขาจะได้เลือกวิชาที่พวกเขาอยากจะเรียน ได้พัฒนาทักษะ ตามความสนใจและความคิดสร้างสรรค์ของพวกเขา โดยกิจกรรมที่เด็กๆ เลือกทำในวันนี้ มีตั้งแต่ศิลปะ การเต้น การทำอาหาร ดนตรี การละคร กีฬา ไปจนถึงการอ่านหนังสือ เราเชื่อว่า ในการศึกษาระดับประถม เป็นเรื่องสำคัญที่พวกเขาจะได้ค้นหาความชอบ และความถนัดของตนเอง ได้ค้นหาว่าพวกเขามีความสุขที่จะทำอะไร และค้นพบสิ่งที่พวกเขาอยากเรียนรู้ได้ด้วยตัวพวกเขาเอง

การทำนาอินทรีย์

เราบริโภคอาหารที่ผลิตจากในชุมชน รวมถึงข้าวซึ่งเราปลูกกินเอง เราเริ่มต้นฤดูการทำนาในเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม ก่อนจะเข้าสู่ฤดูกาลเก็บเกี่ยวในช่วงพฤศจิกายน-ธันวาคม การทำนาเป็นงานที่เหนื่อย ใช้ทั้งแรงกายและใจ แต่ก็เป็นโอกาสให้ศูนย์การเรียนได้ทำงานกับชาวบ้านในชุมชน ข้าวที่เราปลูกเองนั้นให้รสชาตที่เหลือเชื่อ การได้ทำนาท่ามกลางธรรมชาติช่วยกล่อมเกลาจิตใจของเด็กๆ ให้มีความอ่อนน้อม สร้างความยืดหยุ่นทั้งทางร่างกายและจิตใจ

[smartslider3 slider="10"]

[smartslider3 slider="11"]

ค่ายป่า

กิจกรรมเข้าค่ายในป่า เป็นหนึ่งในกิจกรรมของศูนย์การเรียนบ้านสายรุ้งที่เราจะพากันเข้าไปชีชีวิตในป่า เป็นเวลา 6 คืน ช่วงปลายเดือนมีนาคมของทุกปี เราจะนำข้าวสาร และจำกัดการนำอาหารเข้าไปให้น้อยที่สุด และใช้ชีวิตด้วยการหาเก็บผัก หาของป่า หรือจับปลา พวกเขาจะได้เรียนรู้การสร้างที่พัก ด้วยการใช้ไม้ไผ่ หญ้า และไม้อื่นๆ พวกเขาจะได้เรียนรู้การทำตะกร้าไม้ไผ่ กิจกรรมนันทนาการรอบกองไฟ โดยมีทีมชาวบ้านคอยให้คำแนะนำ ช่วงเวลาในป่าจะเป็นโอกาสให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ทักษะการเอาตัวรอด และแสดงความเคารพต่อธรรมชาติ และการเชื่อมต่อสัญชาตญาณในตัวเอง

ทัศนศึกษากรุงเทพมหานคร

ทุกๆ เดือนธันวาคม เราจะพาเด็กๆ ไปทำกิจกรรมเรียนรู้ตามความถนัด และความสนใจที่กรุงเทพมหานคร ไม่ว่าจะเป็นการฝึกเสียง-ขับร้อง การฝึกเดินแบบ การฝึกเคลื่อนไหวตามจังหวะ การฝึกโยคะ และการรับชมละคร เท็นโตะ กิจกรรมเหล่านี้ จะเป็นบันไดให้เด็กๆ ได้ก้าวตามความฝันของตัวเอง พวกเขาจะพักอาศัยอยู่กับครอบครัวคนญี่ปุ่นในกรุงเทพมหานคร เด็กๆ จะมีโอกาสได้เรียนรู้ภาษา และวัฒนธรรมญี่ปุ่น กิจกรรมตลอดระยะเวลา 4 วันนี้ ได้รับการสนับสนุนจากหลายๆ คน ซึ่งศูนย์การเรียนรู้บ้านสายรุ้ง รู้สึกขอบคุณสำหรับโอกาสให้เด็กๆ ได้เปิดโลกกว้างและเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆ

[smartslider3 slider="12"]

[smartslider3 slider="13"]

กีฬาสี

ทุกๆ ปลายเดือนธันวาคมของทุกปี เราจะมีกิจกรรมกีฬาสีที่จะจัดขึ้นเป็นระยะเวลา 3 วัน ทั้งผู้ใหญ่ และเด็กๆ กว่า 80 ชีวิต เข้าร่วม โดยนอกจากเด็กของศูนย์การเรียนบ้านสายรุ้ง เรายังได้ชักชวนเด็กในชุมชนที่รักการเล่นกีฬา มาร่วมกิจกรรมด้วย โดยเราแบ่งนักกีฬาออกเป็น 2 ทีม เพื่อแข่งกีฬาต่างๆ ร่วมกัน ตั้งแต่ วิ่งมาราธอน ฟุตบอล ดอดจ์บอล ปิงปอง แบดมินตัน, วิ่งผลัด, วิ่งระยะสั้น, กิจกรรมเชียร์ เป็นต้น ตลอดระเวลาสามวันนี้ ทุกคนจะได้ฝึกความสามัคคี การร่วมแรงร่วมใจ และมิตรภาพระหว่างการแข่งขัน เราตั้งใจจะดำเนินกิจกรรมนี้ไปทุกปี เพื่อเป็นโอกาสให้เด็กๆ ได้พัฒนาสุขภาพ และเติบโตไปอย่างแข็งแรง พร้อมกับสร้างความสัมพันธ์อันดีกับชุมชน

ค่ายสวรรค์

ค่ายสวรรค์ เป็นกิจกรรมค่ายที่นำโดยคุณครูไซตะ ที่จัดขึ้นเพื่อเด็กญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ จากประเทศญี่ปุ่นเพื่อพัฒนาทักษะความเป็นผู้นำ กิจกรรมของค่ายสวรรค์ มีตั้งแต่การปลูกต้นไม้ การเก็บขยะ การทำแผนที่ความฝัน ซึ่งเยาวชนที่เข้าร่วมกิจกรรมแต่ละคนจะได้เขียนเล่าความฝันของตัวเอง ค่ายสวรรค์ ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมศูนย์การเรียนบ้านสายรุ้งมากว่า 5 ปีแล้ว เด็กๆ ตื่นเต้นที่จะได้ไปร่วมกิจกรรมกับเด็กๆชาวญี่ปุ่น ในขณะที่ก็เป็นโอกาสให้เด็กชาวญี่ปุ่นได้เดินทางมาเรียนรู้การใช้ชีวิตกับเด็กๆที่ศูนย์การเรียนบ้านสายรุ้ง ซึ่งจากวิถีชีวิตประจำวันที่พวกเขาเคยใช้ในเมือง ตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา ศูนย์การเรียนบ้านสายรุ้งจะส่งตัวแทนเด็กนักเรียน 2 คนไปร่วมกิจกรรมค่ายสวรรค์ ที่เกาะพิทักษ์ จังหวัดชุมพร ถึงแม้ว่าจะมีอุปสรรคเรื่องการสื่อสาร แต่การเข้าค่ายสวรรค์ก็ถือเป็นประสบการณ์ที่มีค่า ซึ่งเราหวังว่าเด็กๆ จะได้พัฒนาความเป็นผู้นำสำหรับอนาคตต่อไป

[smartslider3 slider="14"]

[smartslider3 slider="15"]

ESD: Education for Sustainable Development

ศูนย์การเรียนบ้านสายรุ้ง บรรจุวิชาการศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือที่เราเรียกสั้นๆ ว่า ESD: Education for Sustainable Development ซึ่งเป็นหลักสูตรที่เสนอโดยองค์การสหประชาชาติ (United Nations) ครูปัณณพร ซึ่งเป็นผู้จดทะเบียนศูนย์การเรียนบ้านสายรุ้ง เป็นผู้รับผิดชอบวิชานี้ เธอจบการศึกษาระดับปริญญาโทด้านสังคมวิทยา จากมหาวิทยาลัยในอินเดีย เธอยังเคยทำงานเป็นผู้สื่อข่าวให้กับสำนักข่าวเอ็น เอช เค ในปีการศึกษา 2562 เด็กๆ ได้เรียนรู้ถึงเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ได้ลงมือปฏิบัติจริง ไม่ว่าจะเป็นการทำเก้าอี้จาก eco-bricks การทำบ้านดิน ในปีการศึกษา 2563 นี้ เราตั้งใจจะสำรวจเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในแง่มุมต่างๆ ให้ลึกซึ้งมากขึ้น เพื่อให้เด็กๆ เข้าใจปัญหาต่างๆ ของสังคมมากยิ่งขึ้น และเป็นส่วนหนึ่งการแก้ปัญหาสังคมต่อไป และเพื่อใช้ชีวิตตามรูปแบบของศูนย์การเรียนบ้านสายรุ้ง

โครงการขยะ

ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2562 เราได้ริเริ่มโครงการขยะ ในเดือนเดียวกัน เราได้เดินทางไปเยี่ยมชมบ่อขยะของอำเภอสังขละบุรี ซึ่งทำให้เราตกใจกับการจัดการขยะของรัฐ จึงทำให้เราตัดสินใจจัดการขยะด้วยตัวเองโดยไม่พึ่งบริการของรัฐ ซึ่งเป็นการนำขยะไปใส่หลุมฝังในป่า เราเห็นกองขยะเป็นภูเขา กลิ่นเหม็นคลุ้งในอากาศทั่วบริเวณโดนรอบ จนทำให้เราไม่สามารถอยู่ได้นานเกินกว่า 5 นาที ทุกๆ วัน จะมีรถบรรทุกขยะของเทศบาลนำเอาขยะมาทิ้งไว้ที่นี่ น้ำใต้ดินได้รับของเสียจากมลพิษขยะ ไปยังพม่า ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียงพื้นที่ทิ้งขยะ เราตัดสินใจว่าจะจัดการขยะอย่างเป็นระบบ มีการคัดแยกขยะออกเป็นแต่ละประเภท ส่วนที่นำไปรีไซเคิลได้ เราจะขายให้พ่อค้ารับซื้อขยะส่งโรงงานรีไซเคิล ส่วนเศษอาหาร เรานำมาผลิตเป็นปุ๋ย เศษกระดาษเราจะนำเผา ส่วนเสื้อผ้าที่ได้รับบริจาคมา เรานำมาอัดใส่กระสอบทราย ทำเป็นโซฟาสำหรับนั่ง ขยะพลาสติกเล็กๆ เราจะนำมายัดใส่ขวดพลาสติก เพื่อทำเป็น eco-brick ซึ่งสามารถนำไปทำเป็นเก้าอี้ หรือผนังบ้านได้ ขยะที่เป็นพิษ ก็จะมีการคัดแยกเก็บไว้ เรามีความมุ่งมั่นที่จะทำงานเรื่องขยะในพื้นที่สังขละบุรี เพื่อหาทางออกในการจัดการขยะอย่างยั่งยืน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมร่วมกับชุมชนต่อไป

[smartslider3 slider="16"]

[smartslider3 slider="17"]

โครงการเห็ด

ที่ศูนย์การเรียนบ้านสายรุ้ง เราปลูกเห็ดเพื่อไว้ทานเอง และสำหรับขาย เราซื้อเชื้อเห็ดจากคนในสังขละบุรี โดยมีเด็กๆ แบ่งหน้าที่กันดูแลเห็ด และรดน้ำเห็ดทุกวัน ทุกวันเราจะเก็บเกี่ยวเห็ดสดๆ เพื่อนำไปทานอาหาร เด็กๆ ได้เรียนรู้การชั่งเห็ด และการบันทึกข้อมูลการเก็บเห็ด เมื่ออาหารสดจากครัวของศูนย์การเรียนหมด ทีมห้องครัวจะซื้อเห็ดแหล่านี้มาทำอาหาร หากเหลือกิน เราจะนำไปขายในชุมชน เงินที่ได้จากโครงการเห็ด จะแบ่งให้กับเด็กๆ ที่รับผิดชอบโครงการนี้ โครงการนี้ ช่วยฝึกความรับผิดชอบ รวมไปถึงการฝึกทักษะที่จำเป็นต่อชีวิตต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การดูแลเห็ด การชั่งเห็ด การทำอาหารจากเห็ด การขาย การดูแลเงิน โครงการนี้ดูแลโดยครูรัตพิพรรณ และครูปัณณพร 

โครงการขยะเปียก

เศษอาหารที่เหลือจากการทำอาหารในครัว จะถูกนำไปใช้ทำปุ๋ย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานต่อเนื่องจากโครงการจัดการขยะ จากการสำรวจของรัฐบาลไทย พบว่า 70 เปอร์เซ็นต์ของขยะ คือ เศษอาหาร วันที่เราเดินทางไปดูบ่อขยะ ซึ่งเต็มไปด้วยแมลงวัน และกลิ่นเหม็นเน่า นั่นน่าจะเป็นเพราะขยะส่วนใหญ่มีขยะเปียก และเศษอาหารปะปน เรามักจะเห็นว่ามีการทิ้งขยะแต่ละชนิด ไม่ว่าจะเป็นขยะเปียก ขยะพลาสติก เศษอาหารปะปนกันในถังขยะตลาดสังขละบุรี หากเราสามารถสร้างระบบที่จัดการขยะเปียก 70 เปอร์เซ็นต์นี้ให้เป็นปุ๋ย ก็ช่วยบำรุงดินให้มีความอุดมสมบูรณ์ได้อีกด้วย เราจึงพยายามลองผิดลองถูกในการจัดการขยะเปียก และการทำปุ๋ยของเรา เรายินดีเปิดรับทุกความเห็นในการจัดการเศษอาหารเหลือใช้ โครงการนี้ รับผิดชอบโดยครูศักดิ์ชาย

[smartslider3 slider="9"]

[smartslider3 slider="18"]

ละครเพลง

ในเดือนธันวาคม ปี 2560 ศูนย์การเรียนบ้านสายรุ้ง ได้ริเริ่มการทำละครเพลง เรื่อง นักรบสายรุ้ง ซึ่งเป็นละครเพลงที่ศูนย์การเรียนตั้งใจส่งข้อความไปถึงผู้คน เราได้รับความช่วยเหลือจากคุณริโฮ ทานากะ ซึ่งเป็นนักเต้นมืออาชีพจากเมืองโคจิ ประเทศญี่ปุ่น มาช่วยสอนเด็ก และออกแบบท่าเต้น เป็นเวลากว่า 2 เดือน ต้องขอบคุณริโฮที่มาช่วยเหลือศูนย์การเรียนของเรา จนทำให้เราสามารถผลิตละครเพลง โดยมีพู่กะ นักเรียน อายุ 12 ปีของเราเป็นนักแสดงนำ พู่กะมีความสามารถในเรื่องการเต้น และแสดงตั้งแต่เธอยังเด็ก ทำให้เธอได้รับบทนำ ขณะที่นักเต้น และนักแสดงคนอื่นๆ ต่าง เรามีความกระตือรือร้นที่พัฒนากิจกรรมนี้ของเราไปพร้อมกับกิจกรรมอื่น ก่อนหน้าที่เราจะย้ายมาอยู่ ณ ที่ปัจจุบัน เวทีการแสดงของเรา คือ “The Celestial Ark” ซึ่งเป็นบ้านดินที่ออกแบบให้เป็นเหมือนเรือที่กำลังโบยบิน ซึ่งออกแบบโดยคุณคิคุมะ วาตานาเบะ สถาปนิกชาวญี่ปุ่น โดยหลังจากที่เราย้ายออกจากศูนย์การเรียนแห่งเดิม เราได้พบสถานที่ใหม่ๆ ที่วิเศษไม่แพ้กัน ตั้งอยู่ไม่ไกลจากที่ดินใหม่ของศูนย์การเรียนเรา เราหวังว่าทุกคนที่เดินทางมาเยี่ยมพวกเรา จะได้มารับชมละครเพลง นักรบสายรุ้ง ร่วมกัน

ฟุตบอล

เด็กผู้ชายชอบเล่นฟุตบอล หลังเลิกเรียนตอนเย็น พวกเขาจะรีบไปใส่รองเท้าฟุตบอล ก่อนวิ่งไปสนามฟุตบอล กลุ่มเด็กชายที่โตหน่อยต่างก็พัฒนาทักษะฟุตบอลขึ้นมาก จนสามารถไปแข่งในเกมส์ข้างนอกศูนย์การเรียนได้ โดยมีครูมกรา และครูศักดิ์ชาย เป็นผู้ดูแล และต่างก็ทุ่มเทกับการฝึกซ้อมเด็กๆ คอยเล่นฟุตบอลกับเด็กๆ ยามว่าง การเล่นฟุตบอลช่วยคลายเหงา และผ่อนคลายจิตใจให้กับเด็กๆ ที่อาจจะเหงาที่ต้องอยู่ห่างไกลครอบครัว การเล่นฟุตบอลทำให้พวกเขามีความตื่นตัว มีความสุข และความมั่นใจในตัวเอง ทั้งยังช่วยให้ร่างกาย และจิตใจพวกเขาแข็งแกร่ง และยืดหยุ่นมากขึ้น เราอยากสนับสนุนให้พวกเขาเล่นฟุตบอลไปเรื่อยๆ

[smartslider3 slider="19"]